วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

หลักไมล์...กับ…สองมือ...

เราสงสัยมาตลอดว่า ความสัมพันธ์ของคนสองคนนั้น มีอะไรสามารถวัดได้ว่ากำลังเดินไปข้างหน้า ย่ำอยู่กับที่ หรือกำลังเดินถอยหลังลงคลอง เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราเดินถึงไหนแล้ว เราควรเร่งสปีดให้ความสัมพันธ์คืบหน้าไหม หรือควรลดระดับความเร็วลง? ถ้าเราสามารถวัดระดับความสัมพันธ์ได้ เหมือนมีหลักไมล์เป็นตัวบอกระยะทางได้ก็คงดี บางทีก็อาจจะทำให้รู้ว่าเรากำลังเดินบนถนนผิดสายหรือเปล่า

สำหรับเรา เราไม่รู้เลยว่าหลักไมล์ของเรากับเขาเป็นแบบไหน หรือว่าเราจะใช้มาตรวัดเหมือนกันหรือไม่ บางทีเราใช้หลักไมล์ แต่เขาอาจจะเป็นหลักกิโลเมตรก็ได้ การบังคับให้อีกคนใช้มาตรวัดเดียวกันก็เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เราจึงไม่รู้จริงๆ ว่า เรากำลังเดินไปถึงจุดไหนแล้ว

หรือเป็นเพราะว่าเราไม่เคยมีเป้าหมายทำให้ไม่รู้จุดที่เราอยู่ หากเราสามารถบอกได้ว่าเป้าหมายคืออะไร ก็อาจจะทำให้เรามีความสุขกับการเดินทางมากกว่านี้?

มีครั้งหนึ่ง ที่เราเคยเหนื่อยกับการเดินทาง จนเกือบจะหยุดพัก เพราะเราพยายามดันให้ความสัมพันธ์นี้เดินไปข้างหน้า เพื่อให้แตะหลักไมล์ที่สอง สาม สี่ ที่เราตั้งขึ้นมา แต่มันยากเกินไป ตอนนั้นเราเหนื่อยจริงๆ

เรากลับมานั่งคิดดูถึงสาเหตุของมัน ก็ทำให้รู้ว่าเป็นเพราะเรายึดติดกับคำว่า “ระดับความสัมพันธ์” มากเกินไป เราต้องการความชัดเจน แน่นอน กับสิ่งที่ไม่แน่นอนที่สุดอย่างความรู้สึก มันเลยทำให้เราเหนื่อย ท้อแท้ หมดหวัง เพราะเราหวังกับสิ่งที่ไม่มีตัวตนอย่างความรัก ถ้าเราไม่เอาแต่ทำแต้มกับหลักไมล์ เราก็ไม่จำเป็นต้องทำให้มันเดินไปข้างหน้า แค่ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติก็พอ

ตอนนี้ ถึงแม้เราจะยังอยากรู้ว่าเรากับเขากำลังอยู่ตรงไหน และจะเดินไปยังจุดไหน แต่เราก็จะไม่เอาคำว่าระดับความสัมพันธ์ซึ่งเป็นนามธรรม มาทำให้เราลังเลกับการจูงมือเขาไปบนทางสายนี้อีก เราจะแค่เดินจูงมือเขาให้ที่สุด เพราะ “การคบกันเหมือนการเดินจูงมือกันไปบนถนนขรุขระที่มีวิวทิวทัศน์อันรื่นรมย์” แม้มันไม่ได้ยาวนัก แต่ก็มากพอที่จะอยู่เหนือการควบคุมของเรา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหาบล็อกนี้

Powered By Blogger